โกรทฮอร์โมนในเนื้อสัตว์: สิ่งที่ถูกห้าม สิ่งที่ยังไม่ถูกพูดถึง และสิ่งที่คุณเลือกได้

ก.ย. 3, 2025

แม้เราจะพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการกินคลีน ออกกำลังกาย หรือหลีกเลี่ยงของแปรรูป แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่อาจแฝงมาโดยไม่รู้ตัว นั่นคือ “โกรทฮอร์โมน” หรือฮอร์โมนเร่งโต ที่ปะปนอยู่ในอาหาร โดยเฉพาะในเนื้อสัตว์

หลายคนอาจคิดว่า ประเทศไทยห้ามใช้โกรทฮอร์โมนไปนานแล้ว ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

แต่เคยสงสัยกันไหมว่า… กฎหมายที่ว่านั้นครอบคลุมฮอร์โมนทุกชนิดจริงหรือ?

แล้วฮอร์โมนตัวอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติคล้ายกันล่ะ? และเรามั่นใจได้อย่างไรว่า “ไม่มี” หมายถึง “ไม่มีจริง ๆ”

ประเทศไทย “แบน” แค่บางชนิดเท่านั้น

ประเทศไทยมีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 417/2529 ซึ่งสั่งห้ามใช้ “เฮกโซเอสโตรล (Hexoestrol)” ในการเลี้ยงสัตว์

เฮกโซเอสโตรลเป็น ฮอร์โมนสังเคราะห์ในกลุ่มเอสโตรเจน เคยถูกนำมาใช้เพื่อเร่งการเติบโตของสัตว์ เช่น ไก่และหมู รวมถึงใช้ในการตอนสัตว์เพศผู้ด้วยวิธีทางเคมี

เมื่อสารนี้ตกค้างในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะผู้หญิง อาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ เช่น:

  • ความผิดปกติของรอบเดือน
  • การทำงานของรังไข่
  • ความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
  • ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์

❗ แต่คำสั่งนี้ “ห้ามแค่ Hexoestrol” เท่านั้น ยังมีสารเร่งโตชนิดอื่นที่ยังไม่ได้ถูกควบคุม

ไม่มีฮอร์โมน = ไม่มีอะไรเจือปนจริงหรือ?

ในอุตสาหกรรมไก่ หลายแบรนด์มักเคลมว่า “ไม่มีฮอร์โมน”

ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้ว… เป็นเรื่องจริงแค่ครึ่งเดียว

สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือ:

  • การไม่มี Hexoestrol ไม่ได้แปลว่าไม่มีฮอร์โมนชนิดอื่น
  • ยังมีการใช้ “growth promoters” ที่ไม่จัดอยู่ในหมวดฮอร์โมน เช่น ยาปฏิชีวนะในปริมาณต่ำ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ไก่และยาปฏิชีวนะ)
  • หมูไทยหลายฟาร์มยังพบการใช้สารเร่งโตบางชนิด
  • วัวในสหรัฐฯ ยังใช้ฮอร์โมนเพื่อเร่งการเติบโตอย่างถูกกฎหมาย

ที่สำคัญคือ… ระบบการตรวจสอบของผู้บริโภคทั่วไปไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า “ไม่มี” จริงหรือไม่

คำว่า “ไม่มีฮอร์โมน” จึงกลายเป็นเพียงคำโฆษณา ถ้าไม่มีใครยืนยันที่มาของการเลี้ยง

เมื่อร่างกายเราถูก “เร่ง” โดยไม่รู้ตัว

โกรทฮอร์โมนอาจเร่งให้สัตว์โตไว แต่ในทางกลับกัน มันอาจเร่งให้ร่างกายของเราผิดปกติไวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ผลกระทบระยะยาวของสารเร่งโตในร่างกายมนุษย์อาจได้แก่:

  • ความผิดปกติของระบบฮอร์โมนโดยรวม เช่น ฮอร์โมนเพศแปรปรวน
  • เด็กเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เร็วผิดปกติ
  • ความเสี่ยงต่อโรคในระบบสืบพันธุ์ เช่น ซีสต์หรือมะเร็งเต้านม
  • การอักเสบเรื้อรังในร่างกายจากความไม่สมดุลของระบบเผาผลาญ
  • ความเครียดสะสมในระบบลำไส้และการย่อยอาหาร

สิ่งที่สัตว์ได้รับระหว่างการเลี้ยง อาจกลายเป็นสิ่งที่สะสมในร่างกายคุณทุกวัน

Farm Daddeaw: เลี้ยง แต่ไม่เร่ง เพื่อคุณค่าที่มากขึ้น

เราที่ Farm Daddeaw เชื่อว่า สุขภาพของไก่ เริ่มต้นจากธรรมชาติ ไม่ใช่ห้องทดลอง

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกเลี้ยงไก่โดยไม่ใช้สารกระตุ้นใด ๆ แม้แต่ตัวที่ยังไม่ถูกแบนในประเทศไทย
เราไม่สนใจ “ทางลัด” เพราะเรารู้ว่า สุขภาพที่แท้จริง ไม่มีทางลัด

แนวทางของเราคือ:

  • ไม่ใช้โกรทฮอร์โมนทุกชนิด
  • ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อเร่งโต
  • ไม่ใช้สารเร่งใด ๆ ทั้งที่ถูกควบคุมและยังไม่ถูกควบคุม

ไก่ของเราถูกเลี้ยงแบบ NOMAD Pasture-Raised ที่ย้ายพื้นที่ใหม่ทุกวัน เพื่อให้ไก่ได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด:

  • ได้เดิน ได้หาแมลง ได้จิกกินหญ้าสด
  • ไม่คลุกคลีกับมูลของตัวเอง
  • ไม่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงโรค

รสชาติที่สะท้อนสุขภาพของไก่

ไก่ที่เติบโตอย่างช้า ๆ และแข็งแรงด้วยตัวเอง ย่อมให้เนื้อที่ต่างจากไก่ในระบบอุตสาหกรรม:

  • เนื้อแน่นแต่นุ่ม: เพราะกล้ามเนื้อได้ใช้งานจริง
  • ไขมันสีทอง: ได้จากเบต้าแคโรทีนในหญ้าสด ไม่ใช่สารเร่งสี
  • กลิ่นหอมแบบธรรมชาติ: ไม่ต้องหมัก ไม่ต้องเติมผงปรุง
  • รสชาติลึกซึ้ง: เพราะไก่ได้กินอาหารจากธรรมชาติ ไม่ใช่แค่อาหารเม็ดสำเร็จรูป
  • โภชนาการสูง: ได้วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนจากแหล่งอาหารธรรมชาติ

Farm Daddeaw เลี้ยงไก่ด้วยเวลา ความรัก และความตั้งใจ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า สิ่งที่คุณกิน จะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายคุณในวันข้างหน้า

ถึงเวลาเลือกสิ่งที่ร่างกายคุณคู่ควร

คำว่า “ไม่มีฮอร์โมน” บนฉลาก ไม่เพียงพออีกต่อไป
สิ่งที่เราต้องการคือความจริงใจ และการเปิดเผยกระบวนการเลี้ยงอย่างตรงไปตรงมา

Farm Daddeaw คือตัวเลือกสำหรับคนที่อยากมั่นใจว่าทุกคำที่กิน = คำที่ปลอดภัย
เพราะเราดูแลไก่ของเรา เหมือนที่คุณดูแลครอบครัวของคุณเอง

🛒 ลองสัมผัสรสชาติของไก่ที่ไม่เคยรู้จักฮอร์โมนเลยแม้แต่วันเดียว
📦 ส่งตรงถึงบ้านทั่วไทย ผ่าน Line: @farmdaddeaw